Windows 7 Tip33#

Windows 7 Tips #33: ยกเลิกการ Restart เมื่อ Windows Update
              ห่างหายกันไปนานนะครับ  มีใครคิดถึงผมบ้างมั้ยเอ่น อิอิ  วันนี้เหมือนเคยครับ มีเทคนิคดีๆของ windows7 มาฝากพวกคณๆครับ
คนที่ใช ้ Windows 7 มักจะเจอกับ Message เตือนว่าเครื่องจะ Restart เมื่อ Windows มาีการอัปเดทเสร็จเรียบร้อย เพื่อจะให้การเปลี่ยนแปลงของระบบมีผล  แต่บ้างครั้งคุณกำลังทำงานอยู่ไม่ให้เครื่อง restart หรือ ไม่อยากให้ เครื่อง reset  ทุกครั้งที่อัปเดท ก็สามารถปิด Feature การเตือนได ้

1.คลิกที่ Start แล้วพิมพ์คำสั่ง  gpedit.msc แล้ว <enter>
2.ที่หน้าต่าง Group Policy ให ้ไปตามนี้ครับ
Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Windows Update

3.ให ้ดูด้านซ้ายของหน้าต่าง หา No auto-restart with logged on users for scheduled automatic update
installations แล ้วดับเบิ้ลคลิกที่นี่
4.เลือก Enabled เพื่อยกเลิกการเตือน เมื่อ update เสร็จ คลิก OK

แล้วมาติดตาม Tip เด็ดๆได้อีกนะครับ

Windows 7 Tip32#

Windows 7 Tips #32: มาตรวจดูว่า Windows 7 ติดตั้งวันไหน

       ทิปนี้ไม่มีอะไรมาก เพียงมาบอก  เผื่อเพื่อนๆ บางคนอยากจะรู้ว่า Windows 7 ที่ใชกันอยู่นั้น  ไม่ว่าจะติด�ตั้งเอง หรือ OEM  มากลับเครื่องที่ซื้อใหม่ได้ติดตั้งเมื่อไร   นานหรือยังก็มีวิธีดูได ้ แบบง่ายๆ...Windows 7 จัดให ้

  -ไปที่ Start พิมพ์คำสั่ง CMD เพื่อเปิดหน้าต่าง DOS เมื่อเปิดแล ้วให้พิมพ์คำสั่งตามนี้ครับ

systeminfo|find/i"install date" แล้ว <enter>
รอสักครู่ Windows ก็จะบอกทั้งวันติดตั้งและเวลามาให ้ทราบ ....ลองทำดูนะครับ

แล้วติดตามทิปต่อๆไป ของ Windows 7  ได้อีกนะครับ

Windows 7 Tip31#

Windows 7 Tips #31: เปลี่ยนชื่อไฟล์ที่ละมากๆ แบบง่ายๆ ใน Windows 7



           เวลาที่คุณๆ จะเปลี่ยนชื่อไฟล์ เพียงแค่กดที่ F2 หรือคลิกขวาที่ไฟล์เลือก rename แต่ถ้าจะกดเปลี่ยนชื่อไฟล์ทีละมากๆ เช่นไฟล์รูปภาพที่จะให้ชื่อเหมือนกันและให้ชื่อเรียงกันเป็น 1,2,3,4, .....ต่อท้ายไปจะหมดทุกไฟล์ จะมาให้ใส่ทีละไฟล์ มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ส่วนใหญ่จะใช้ โปรแกรมต่างๆ ช่วย  เช่น ACDsee  แต่ในความเป็นจริงตัว Windows 7 
ก็ทำได้ครับ
-ให้คุณเลือกไฟล์ที่จะต้องการเปลี่ยนชื่อ โดยทำ Highlight ไฟล์ทั้งหมด
-ให้ทำการเปลื่ยนชื่อไฟล์แรก โดยกด F2 หรือ คลิกขวาที่ไฟล์เลือก rename
-ในรูปตัวอย่างผมจะเปลี่ยนเป็น PIC เหมือนคุณพิมพ์ชื่อที่เปลี่ยนแล้วให้ เคาะปุ่ม Tab หนึ่งครั้ง ไฟล์ทั้งหมดที่เลือกไว้ จะเปลี่ยนชื่อเป็น pic และมีตัวเลข   (1),(2),(3),(4)......ต่อท้ายเรียงไปตั้งแต่ไฟล์แรกจนไฟล์สุดท้าย

ติดตามทริปดีๆ ได้ ต่อไปนะครับ

Windows 7 Tip30#

Windows 7 Tips #30: ซ่อน Drive letters ใน Windows 7



        ปกติ Windows 7 จะมีค่า Default ให้แสดงตัวอักษรไดรฟ์ c,d,f,e.... แต่ถ้าคุณๆ ได้ตั้งชื่อไดรฟ์ ในชื่อที่คุณพอใจแล้ว  แต่ไม่ชอบตัวอักษรของไดรฟ์ (C,D,F,E....) หรือคุณที่เคยใช้ Mac และอยากให้ Windows แสดงชื่อไดรฟ์ เหมือน Mac ก็สามารถเอาออกได้


- คลิกที่ Start พิมพ์คำสั่ง Folder options แล้ว <enter> ไปที่แท็บ View ให้หา Show drive letters ติ๊กเครื่องหมาย
ถูกออก คลิก OK

แล้วติดตามเทคนิคดีได้อีกที่นี่นะครับ

Windows 7 Tip29#

Windows 7 Tips #29: เตือนด้วยเสียงBeep เมื่อกด Caps Lock, Num Lock หรือ Scroll Lock



         ปกติคุณๆ ที่พิมพ์คีย์บอร์ดแบบสัมผัส หรือพิมพ์เร็วๆ อาจจะไปกดปุ่ม Caps Lock, NumLock หรือ Scroll Lock โดยบังเอิญ ซึ่งจะทำให้พิมพ์ผิดได้  Windows 7  ก็ให้ Feature การเตือนด้วยเสียง Beep         เพื่อให้รู้ว่าคุณได้กดใช้งานหรือปิดการใช้งานคีย์เหล่านี้ ( เสียงจะมี 2 โทนเสียง) วิธีเปิดปิด Feature ก็ง่ายๆ ในที่นี้จะบอกให้ 2 วิธี


วิธีที่ 1


1.เพียงแค่คุณกดคีย์  Num ค้างไว้ สัก 5 วินาทีก็จะมี Dialog box ถามยืนยันการใช้  ให้คุณคลิก Yes ก็จะใช้ Feature ได้ และถ้าจะปิดการใช้ Feature นี้ ก็ให้ กดคีย์ Num  ค้างไว้ 5  วินาทีอีกครั้ง ก็จะมีเสียง Beep ออกมา ก็แสดงว่าคุณปิด Feature นี้

วิธีที่ 2


1. คลิก Start > All Programs > Accessories > Ease of Access > Ease of Access Center

2.เมื่อหน้าต่าง Ease of Access Center เปิดออกมาให้หาคลิกที่ Make it easier to focus on tasks

3.ที่หน้าต่าง Make it easier to focus on tasks ให้ ติ๊กทำเครื่องหมายที่  Turn on Toggle Keys และติ๊กเอา
เครื่องหมายออกที่ Turn on Toggle Keys by holding down the NUM LOCK key for 5 seconds
แล้วคลิก OK

เพียงเท่านี้คุณๆก็จะได้การเตือนด้วยเสียง Beep เพื่อให้รู้ว่าคุณได้กดใช้งานหรือปิดการใช้งานปุ่ม
Caps Lock, NumLock หรือ Scroll Lock หรือป่าว เพื่อป้องกันการกดผิดทำให้พิมพ์ผิดเสียเวลานะครับ
ติดตาม  Tip Windows 7 ดีๆได้ที่นี่นะครับ

Windows 7 Tip28#

Windows 7 Tips #28: ปลดล๊อกแผ่นติดตั้ง Windows Image)

               ปกติแผ่นติดตั้งของ Windows 7 ส่วนใหญ่ทุกแผ่น จะมีทุกเวอร์ชั่น ได้แก่ Start , home Bsaic ,Home Premium Ultimate แต่ที่คุณๆ  กลับเจอว่าไม่มีตัวเลือกเวอร์ชั่นในตอนติดตั้ง  ให้เลือก เมื่อติดตัั้งมันจะผ่านไปเลย เป็นเพราะแผ่นนั้นถูกล๊อกชั้นหนึ่ง (ส่วนใหญ่จะเป็น Ultimate)

               ทำให้ คุณๆ ไม่สามารถเลือกเวอร์ชั่นให้เหมาะสมกับตัวเองได้สะดวก ทิปนี้จะมาบอกว่าการปลดล๊อกนั้น    ก่อนอื่นคุณต้องมี ISO Image ของ Windows 7 ในกรณีที่ไม่มี ISO ก็ให้ทำจากแผ่น Windows  7 ที่มีโปรแกรม UltraISO เป็นตัวช่วยครับ

1.ให้เอาแผ่น Windows 7 ใส่ DVD RW Drive เปิดโปรแกรม UltraISO ไปที่ File > Open CD/DVD เพื่อมาทำงาน

2.ไปที่เมนู Tool เลือก Make CD/DVD Image... เลือก Image ที่ทำเป็น Standard ISO คลิก Make
แล้วรอสักครู่ ก็จะได้ Image ISO ต้นฉบับที่จะเอาไปปลดล๊อก

3.มาทำการปลดล๊อก ให้เปิด UltraISO ไปที่ File > Open เลือก Image ISO ที่ทำเสร็จตามขั้นตอนก่อนหน้าให้ไปที่โฟลเดอร์ sources หาไฟล์ที่ชื่อ   e i.cfg กด Delete ไฟล์น

4.ทำการเซฟกลับเพื่อเขียน Image ISO ใหม่ โดยไปที่ File > Save หรือ กด Ctrl + S ก็ได ้ ปล่อยโปคุณก็จะได ้ Image ISOที่จะเอาไปเขียนเป็นแผ่นติดตั้ง Windows 7 ที่ปลดล๊อกเรียบร้อย ส่วน Image ISO ตัวต้นแบบโปรแกรมจะ.uibak มาต่อท ้าย  (เป็น Bakup File ของ UltraISO)

ต่อไปนี้ในขั้นตอนติดตั้งก็จะมีเมนูรายการให ้เลือกว่าจะเอาเวอร์ชั่นไหน ตามความต้องการของคุณ

Windows 7 Tip27#

Windows 7 Tips #27: Uninstall IE8 จากWindows 7

     Windows รุ่นก่อนๆ คุณๆจะทราบว่า Internet Explorer (IE) เป็นสิ่งที่จะเอาออกจาก

Windows ค่อยข้างยากเพราะมี config ที่เกี่ยวพันกันอยู่มาก  ตอนนี้มาถึงWindows 7 ซึ่งมี  Internet Explorer 8 หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า IE8  ได ้ออกแบบให้ง่ายต่อการเอา  IE8 ออกจากระบบ ถ้าคุณๆคิดว่าไม่จำเป็นที่จะเก็บไว้ เพราะในปัจจุบันก็มี Browser ที่ดีๆ น่าใช ้อยู่หลายตัวอาทิ เช่น Firefox , Chrome   ถ้าจะเอาออกก็ตามนี้แบบง่ายๆ...

-คลิกที่ Start และพิมพ์คำว่าTurn Windows features on or off แล้ว<enter>

      Scroll ในรายการหา Internet Explorer8 แล้วคลิกเอาเครื่องหมายถูกออกคลิก Ok
จะมีคำเตือนออกมาให้คลิกYes เครื่องจะ Restart กลับมา IE8 ก็ หายไปแล้ว

    ป.ล. IE 9 ก็ใช้ไ้เหมือนกันนะจ๊ะ
ติดตามกันต่อได้นะจ๊ะ